บทความ
ประวัติ อิฐบล็อก
ประวัติคอนกรีต
คอนกรีตเป็นวัสดุก่อสร้างที่ใช้กันมาเป็นเวลาช้านาน จากหลักฐานพบว่ามีการใช้คอนกรีต ตั้งแต่สมัยยุค หินใหม่
7,600 ปี ที่ผ่านมา มีการใช้ทำพื้นกระท่อมของชาวประมง และ พวกล่าสัตว์ สมัยยุคหิน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำดานูป
4000 ปี ได้มีการพัฒนา lime มอร์ต้า สำหรับก่อสร้าง ปิรามิด ในประเทศอียิปต์
3500 ปี มีการใช้คอนกรีต บางประเภท แถบอเมริกาใต้
3000 ปี ชาวกรีกได้พัฒนาคอนกรีตขึ้น
2500 ปีที่ผ่านมา พวกโรมันได้พัฒนาคอนกรีตต่อจากกรีก จนได้คอนกรีตที่มีคุณภาพดี
โดยสร้างขึ้นจากปูนขาว ทรายและเถ้าภูเขาไฟ หินขนาดเล็ก และน้ำ ชาวโรมันใช้คอนกรีตอย่างกว้างขวางใน โครงสร้างต่างๆ เช่น วิหารแพนธีออน ภายในโคลีเซียม และท่อส่งน้ำในประเทศอิตาลี
เทคโนโลยีคอนกรีตส่วนใหญ่ที่พัฒนาโดยชาวโรมันสูญหายไปหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ในศตวรรษที่ห้า
จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2367 ช่างก่ออิฐชาวอังกฤษ Joseph Aspdin ได้พัฒนาปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอนกรีตสมัยใหม่ และหลังจากนั้นได้มีการพัฒนาคอนกรีตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ประวัติ อิฐคอนกรีตบล็อก
การประดิษฐ์ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ในปี 2367 ได้เปิดทางให้กับคอนกรีตบล็อกสำเร็จรูป ทั้งนี้ ได้มีการผลิตอิฐบล็อกคอนกรีตใช้ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้แทนหินหรือไม้ในการสร้างบ้าน มีบ้านที่พบว่าสร้างด้วย บล็อกคอนกรีตทั้งหลังในปี พ.ศ. 2370 บนเกาะสเตเทน สหรัฐอเมริกา ในช่วงแรก บล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป ถูกหล่อในโครงไม้ แล้วตากให้แห้งจนกลายเป็นของแข็ง แบบตันทั้งก้อน ความก้าวหน้าครั้งสำคัญคอนกรีตบล็อกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2393 เมื่อโจเซฟ กิบส์ ได้จดสิทธิบัตรคอนกรีตบล็อกหล่อกลวง โดยอิฐคอนกรีตบล็อกกลวงนี้ เมื่อนำไปก่อผนังจะถูกกรอกด้วยคอนกรีตให้เต็มช่อง ผู้คนได้เรียนรู้ว่าคอนกรีตบล็อกกลวงสามารถผลิตได้ง่าย มีความแข็งแรงและความทนทานที่น่าพอใจ รวมถึงผลิตและขนส่งไปยังไซต์งานได้ง่ายขึ้น จนปี 2442 Harmon S.Palmer สหรัฐอเมริกา ได้จดสิทธิบัตร เครื่องจักรผลิตอิฐคอนกรีตบล็อกกลวง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ทำให้อิฐคอนกรีตบล็อกเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 เครื่องจักรแบบใช้มือสามารถผลิตบล็อกได้ 200 บล็อกภายใน 10 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ความต้องการ สร้างบ้านใหม่มีจำนวนมาก และวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้และอิฐก็มีราคาแพง ผู้สร้างบ้านในยุคนั้น จึงถูกบังคับ ให้มองหาวัสดุก่อสร้างทางเลือก อุตสาหกรรมอิฐคอนกรีตบล็อกก็เฟื่องฟูอย่างยิ่ง ภายในปี พ.ศ. 2449 มีรายงานว่ามีบริษัทและโรงงานกว่า 1,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ผลิตอิฐคอนกรีตบล็อก และในปี2450มีบริษัทประมาณ 100 แห่งที่ผลิตเครื่องจักรผลิตบล็อก แข่งขันกับพาลเมอร์
ในปี พ.ศ. 2448 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้นำบล็อกคอนกรีตมาใช้สำหรับโรงพยาบาล โกดัง และค่ายทหารในเขตคลองปานามาและหมู่เกาะฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะยอมรับอิฐบล็อกคอนกรีต อิฐต้องผ่านการทดสอบอย่างละเอียดและเข้มงวด ในที่สุดการใช้อิฐบล็อกคอนกรีตของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้สร้างความน่าเชื่อถือแก่อุตสาหกรรมอิฐคอนกรีตบล็อก จนได้รับการยอมรับจากผู้สร้างบ้านทั่วทั้งอเมริกา
อิฐคอนกรีตบล็อกมีบทบาทสำคัญในการสร้างบ้านในอเมริกา เนื่องจากมีความแข็งแรง กันเสียง กันไฟ และมีคุณสมบัติ ในปกป้องความหนาวเย็น เช่นเดียวกับที่มนุษย์ยุคแรกที่ใช้หินและอิฐเพื่อปกป้องบ้านของเขา มนุษย์สมัยใหม่ใช้บล็อกคอนกรีตเพื่อสร้างความปลอดภัย ความอบอุ่น และความมั่นใจในที่อยู่อาศัยของเขา
การก่อสร้างด้วยอิฐคอนกรีตบล็อกที่มีการเสริมแรงที่เหมาะสมจะทำให้อาคารทนทานต่อแผ่นดินไหวได้ การทดลองเกี่ยวกับแผ่นดินไหวโดยใช้บล็อกคอนกรีตประสบความสำเร็จอย่างมาก บางแห่งได้ออกแบบอาคาร ที่ใช้อิฐคอนกรีตเสริมเหล็ก ในส่วนที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว
ประโยชน์ของการก่ออิฐคอนกรีตบล็อกและฉาบปูน
ความทนทานเป็นเพียงหนึ่งในข้อดีหลายประการของการสร้างอาคารด้วยอิฐคอนกรีต นอกจากประหยัดและมั่นคงถาวร ทนทานต่อสภาวะที่เป็นอันตราย เช่น ไฟไหม้ เหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง และเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยมต่อการ เปลี่ยนแปลงของเสียงและอุณหภูมิ ในต่างประเทศมีอิฐคอนกรีตบล็อกหลายขนาด รูปร่าง พื้นผิว และสี ทำให้เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมและสวยงาม อยู่ตลอดมา ตัวอย่าง งานออกแบบที่ใช้ อิฐคอนกรีตบล็อก
Frank Lloyd Wright สถาปนิกคนสำคัญคนหนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 20
เป็นผู้คิดและเริ่ม textile block มาใช้ในการสร้างบ้าน
ซึ่งหนึ่งในวัสดุที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานการตกแต่งที่ต้องจดจำของเขาคือ Textile block
บล็อกคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีการเสริมแรงแผงร้อนการใช้เครื่องปรับอากาศแสงกระจายซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เขาคิดค้นขึ้น
นำมาทำเป็นโครงสร้างและผนังหลังของบ้าน โดยผลงานที่เราขอนำมาพูดถึงเพื่อยกตัวอย่างคือ Ennis House ในปี 1925
บ้านที่กล่าวกันว่าเป็นบ้านหลังที่ดีและใหญ่ที่สุดในบรรดา Textile block ทั้งหมดที่เขาสร้าง
Ennis House นวัตกรรมวัสดุ Textile block ของ Wright
www. homeworlddesign.com
Architects: Terra e Tuma
Team: Danilo Terra, Pedro Tuma, Fernanda Sakano
Project: Inside Out House
Location: Lapa, São Paulo, Brazil
Area: 170.0 sqm
Photographs: Nelson Kon
www.dezeen.com
Architecture: Terra e Tuma Arquitetos Associados
Project team: Danilo Terra, Pedro Tuma, Juliana Assali
Construction: Valdionor Andrade de Carvalho and team
Structure: Megalos Engenharia
Landscaping: Gabriella Ornaghi Arquitetura da Paisagem
www.trendhunter.com/trends/maracana-house
www.contemporist.com/unfinished-concrete-gives-house-industrial-feeling
Tamar Jacobs and Oshri Yaniv
of Jacobs-Yaniv Architects
have designed a new home
for themselves and their children
in Herzliya, Israel,
www.contemporist.com/unfinished-concrete-gives-house-industrial-feeling
Tamar Jacobs and Oshri Yaniv
of Jacobs-Yaniv Architects
have designed a new home
for themselves and their children
in Herzliya, Israel,
Photography by Amit Geron
7,600 ปี ที่ผ่านมา มีการใช้ทำพื้นกระท่อมของชาวประมง และ พวกล่าสัตว์ สมัยยุคหิน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำดานูป
4000 ปี ได้มีการพัฒนา lime มอร์ต้า สำหรับก่อสร้าง ปิรามิด ในประเทศอียิปต์
3500 ปี มีการใช้คอนกรีต บางประเภท แถบอเมริกาใต้
3000 ปี ชาวกรีกได้พัฒนาคอนกรีตขึ้น
2500 ปีที่ผ่านมา พวกโรมันได้พัฒนาคอนกรีตต่อจากกรีก จนได้คอนกรีตที่มีคุณภาพดี
โดยสร้างขึ้นจากปูนขาว ทรายและเถ้าภูเขาไฟ หินขนาดเล็ก และน้ำ ชาวโรมันใช้คอนกรีตอย่างกว้างขวางใน โครงสร้างต่างๆ เช่น วิหารแพนธีออน ภายในโคลีเซียม และท่อส่งน้ำในประเทศอิตาลี
เทคโนโลยีคอนกรีตส่วนใหญ่ที่พัฒนาโดยชาวโรมันสูญหายไปหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมัน ในศตวรรษที่ห้า
จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2367 ช่างก่ออิฐชาวอังกฤษ Joseph Aspdin ได้พัฒนาปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอนกรีตสมัยใหม่ และหลังจากนั้นได้มีการพัฒนาคอนกรีตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ประวัติ อิฐคอนกรีตบล็อก
การประดิษฐ์ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ในปี 2367 ได้เปิดทางให้กับคอนกรีตบล็อกสำเร็จรูป ทั้งนี้ ได้มีการผลิตอิฐบล็อกคอนกรีตใช้ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาเพื่อใช้แทนหินหรือไม้ในการสร้างบ้าน มีบ้านที่พบว่าสร้างด้วย บล็อกคอนกรีตทั้งหลังในปี พ.ศ. 2370 บนเกาะสเตเทน สหรัฐอเมริกา ในช่วงแรก บล็อกคอนกรีตสำเร็จรูป ถูกหล่อในโครงไม้ แล้วตากให้แห้งจนกลายเป็นของแข็ง แบบตันทั้งก้อน ความก้าวหน้าครั้งสำคัญคอนกรีตบล็อกเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2393 เมื่อโจเซฟ กิบส์ ได้จดสิทธิบัตรคอนกรีตบล็อกหล่อกลวง โดยอิฐคอนกรีตบล็อกกลวงนี้ เมื่อนำไปก่อผนังจะถูกกรอกด้วยคอนกรีตให้เต็มช่อง ผู้คนได้เรียนรู้ว่าคอนกรีตบล็อกกลวงสามารถผลิตได้ง่าย มีความแข็งแรงและความทนทานที่น่าพอใจ รวมถึงผลิตและขนส่งไปยังไซต์งานได้ง่ายขึ้น จนปี 2442 Harmon S.Palmer สหรัฐอเมริกา ได้จดสิทธิบัตร เครื่องจักรผลิตอิฐคอนกรีตบล็อกกลวง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ทำให้อิฐคอนกรีตบล็อกเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 เครื่องจักรแบบใช้มือสามารถผลิตบล็อกได้ 200 บล็อกภายใน 10 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่ความต้องการ สร้างบ้านใหม่มีจำนวนมาก และวัสดุก่อสร้าง เช่น ไม้และอิฐก็มีราคาแพง ผู้สร้างบ้านในยุคนั้น จึงถูกบังคับ ให้มองหาวัสดุก่อสร้างทางเลือก อุตสาหกรรมอิฐคอนกรีตบล็อกก็เฟื่องฟูอย่างยิ่ง ภายในปี พ.ศ. 2449 มีรายงานว่ามีบริษัทและโรงงานกว่า 1,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ผลิตอิฐคอนกรีตบล็อก และในปี2450มีบริษัทประมาณ 100 แห่งที่ผลิตเครื่องจักรผลิตบล็อก แข่งขันกับพาลเมอร์
ในปี พ.ศ. 2448 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้นำบล็อกคอนกรีตมาใช้สำหรับโรงพยาบาล โกดัง และค่ายทหารในเขตคลองปานามาและหมู่เกาะฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะยอมรับอิฐบล็อกคอนกรีต อิฐต้องผ่านการทดสอบอย่างละเอียดและเข้มงวด ในที่สุดการใช้อิฐบล็อกคอนกรีตของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้สร้างความน่าเชื่อถือแก่อุตสาหกรรมอิฐคอนกรีตบล็อก จนได้รับการยอมรับจากผู้สร้างบ้านทั่วทั้งอเมริกา
อิฐคอนกรีตบล็อกมีบทบาทสำคัญในการสร้างบ้านในอเมริกา เนื่องจากมีความแข็งแรง กันเสียง กันไฟ และมีคุณสมบัติ ในปกป้องความหนาวเย็น เช่นเดียวกับที่มนุษย์ยุคแรกที่ใช้หินและอิฐเพื่อปกป้องบ้านของเขา มนุษย์สมัยใหม่ใช้บล็อกคอนกรีตเพื่อสร้างความปลอดภัย ความอบอุ่น และความมั่นใจในที่อยู่อาศัยของเขา
การก่อสร้างด้วยอิฐคอนกรีตบล็อกที่มีการเสริมแรงที่เหมาะสมจะทำให้อาคารทนทานต่อแผ่นดินไหวได้ การทดลองเกี่ยวกับแผ่นดินไหวโดยใช้บล็อกคอนกรีตประสบความสำเร็จอย่างมาก บางแห่งได้ออกแบบอาคาร ที่ใช้อิฐคอนกรีตเสริมเหล็ก ในส่วนที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว
ประโยชน์ของการก่ออิฐคอนกรีตบล็อกและฉาบปูน
ความทนทานเป็นเพียงหนึ่งในข้อดีหลายประการของการสร้างอาคารด้วยอิฐคอนกรีต นอกจากประหยัดและมั่นคงถาวร ทนทานต่อสภาวะที่เป็นอันตราย เช่น ไฟไหม้ เหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรง และเป็นฉนวนที่ดีเยี่ยมต่อการ เปลี่ยนแปลงของเสียงและอุณหภูมิ ในต่างประเทศมีอิฐคอนกรีตบล็อกหลายขนาด รูปร่าง พื้นผิว และสี ทำให้เป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมและสวยงาม อยู่ตลอดมา ตัวอย่าง งานออกแบบที่ใช้ อิฐคอนกรีตบล็อก
Frank Lloyd Wright สถาปนิกคนสำคัญคนหนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 20
เป็นผู้คิดและเริ่ม textile block มาใช้ในการสร้างบ้าน
ซึ่งหนึ่งในวัสดุที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานการตกแต่งที่ต้องจดจำของเขาคือ Textile block
บล็อกคอนกรีตสำเร็จรูปที่มีการเสริมแรงแผงร้อนการใช้เครื่องปรับอากาศแสงกระจายซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เขาคิดค้นขึ้น
นำมาทำเป็นโครงสร้างและผนังหลังของบ้าน โดยผลงานที่เราขอนำมาพูดถึงเพื่อยกตัวอย่างคือ Ennis House ในปี 1925
บ้านที่กล่าวกันว่าเป็นบ้านหลังที่ดีและใหญ่ที่สุดในบรรดา Textile block ทั้งหมดที่เขาสร้าง
Ennis House นวัตกรรมวัสดุ Textile block ของ Wright
www. homeworlddesign.comArchitects: Terra e Tuma
Team: Danilo Terra, Pedro Tuma, Fernanda Sakano
Project: Inside Out House
Location: Lapa, São Paulo, Brazil
Area: 170.0 sqm
Photographs: Nelson Kon
www.dezeen.comArchitecture: Terra e Tuma Arquitetos Associados
Project team: Danilo Terra, Pedro Tuma, Juliana Assali
Construction: Valdionor Andrade de Carvalho and team
Structure: Megalos Engenharia
Landscaping: Gabriella Ornaghi Arquitetura da Paisagem
www.trendhunter.com/trends/maracana-house
www.contemporist.com/unfinished-concrete-gives-house-industrial-feelingTamar Jacobs and Oshri Yaniv
of Jacobs-Yaniv Architects
have designed a new home
for themselves and their children
in Herzliya, Israel,
www.contemporist.com/unfinished-concrete-gives-house-industrial-feelingTamar Jacobs and Oshri Yaniv
of Jacobs-Yaniv Architects
have designed a new home
for themselves and their children
in Herzliya, Israel,
Photography by Amit Geron
